ผักสุกกับผักดิบทานแบบไหนสบายใจกว่ากัน

                             วันนี้แอดมินก็จะมาไขข้อข้องใจระหว่าง ผักสุกกับผักดิบทานแบบไหนสบายใจกว่ากัน หรือว่าทานแบบไหนจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน อันนี้น่าจะเป็นข้อถกเถียงกันมานานใช่มั้ยคะ เดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม  เรื่องจริงเกี่ยวกับเอ็มเคที่เราไม่เคยรู้มาก่อน กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ  Ufath168 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ

ผักสุกกับผักดิบทานแบบไหนสบายใจกว่ากัน ไขข้อข้องใจเรื่องผัก

                             หลายหลายคนไม่ได้สนใจว่าควรจะเลือก รับประทานผักสดหรือว่าผักดิบดี แต่ความจริงแล้ว เราสามารถสูญเสียสารอาหารผักได้ ถ้าเราเลือกการปรุงแบบผิดวิธีนะคะ ผลไม้อย่างแรกเลย ที่แอดมินจะพูดถึงก็คือมะเขือเทศนะคะ หลายคนอาจจะคิดว่าทานดิบก็ได้หรือว่าทานสุกก็ได้ ความจริงแล้วการรับประทานแบบสุก จะทำให้เราได้รับสารอาหารที่สำคัญในตัวมะเขือเทศ ก็คือไรโคปีน

ซึ่งไรโคปีนค่าผ่านความร้อนผนังเซลล์จะถูกทำลายอีกทั้ง ยังมีการเปลี่ยนเป็นไรโคปีนในรูปแบบที่ดูดซึมได้ง่ายมากขึ้น อย่างเช่นมะเขือเทศดิบจะมีไรโคปีนสามถึง 7 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม แต่เมื่อผ่านความร้อนแล้ว จะมีไรโคปีนเพิ่มขึ้น 25% เลยค่ะ ซึ่งในโคปีนจะมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และช่วยดูแลปอดของเราด้วยค่ะ และผลไม้อย่างต่อมาก็คือ แครอท เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูงมาก

ในระดับต้นของผักประเภทสีส้ม สีเหลือง เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากเบต้าแคโรทีนอย่างเต็มที่ เราควรจะรับประทานแครอทในรูปแบบแครอทสุก เวลาที่นำไปผ่านความร้อน ความร้อนจะทำลายผนังเซลล์ของแครอท ทำให้ดูดซึมของร่างกาย เป็นไปได้ดีมากขึ้น โดยแครอทศุกร์จะมีปริมาณเบต้าแคโรทีน เพิ่มขึ้นถึง 34% ซึ่งเบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูนอิสระต้านการอักเสบช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆได้ดี

ที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายได้ด้วยค่ะ ส่วนถ้าเป็นผักที่แอดมินจะพูดถึง พริก ซึ่งพริกจะมีวิตามินซีอยู่นะคะ ซึ่งปริมาณวิตามินซีในพริก ซึ่งในพริกหวานจะมีวิตามินซีถึง 70 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม พริกหยวกจะมีวิตามินซี 50 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม พริกขี้หนูจะมีวิตามินซี 40 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งวิตามินซี จะมีประโยชน์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยต้านอนุมูนอิสระและช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน

ซึ่งคอลลาเจนจะทำให้ผิวหนังของเราดูยืดหยุ่น และทำให้ผิวหนังของเราสดใสมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ บอกเลยว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ

🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕 🥕

Recommended Articles