ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสารทดแทนความหวาน

            วันนี้เราก็จะมา ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสารทดแทนความหวาน  กันค่ะ ว่าความจริงแล้วเนี่ยมันอันตรายหรือเปล่า หรือว่าดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ เราควรทานหวานอย่างไรให้มันดีต่อสุขภาพของเรา แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม  ทานโปรตีนถูกวิธีสุขภาพดีห่างไกลโรคร้าย กันด้วยนะคะ  แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยค่ะ

ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสารทดแทนความหวาน ดีต่อสุขภาพจริงมั้ย

            เมื่อไม่นานมานี้นะคะ องค์การอนามัยโลก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ WHO เนี่ยก็ได้มีการออกมาเตือนนะคะ ว่าใครที่กำลังพยายามที่จะลดน้ำหนัก หรือว่าลดไขมัน แล้วก็พยายามลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนหรือว่าโรคเบาหวานอยู่ ควรจะหลีกเลี่ยงการทาน Sweetener หรือว่าสารให้ความหวาน ที่ไม่ใช่น้ำตาลนะคะ แล้วพอองค์การอนามัยโลกประกาศออกมาแบบนั้นนะคะ

ก็เลยทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เยอะมากๆเลย และแบ่งคนออกมาเป็น 2 ฝ่ายค่ะ ส่วนนึงเค้าก็เห็นด้วยกันนะคะ เพราะว่ามันก็น่าจะมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของเราระยะยาว แต่อีกฝั่งนึงเค้าก็ออกมาพูดกันนะคะ ว่าองค์การอนามัยโลกเนี่ย ออกมาใส่ร้ายกับสารให้ความหวานนี้ มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย แล้วก็ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเลยค่ะ แล้วบางส่วนก็ให้ความเห็นว่ามันยังสามารถทานได้แล้วก็ยังปลอดภัยด้วยนะคะ

แอดมินก็จะขอยกตัวอย่างที่ทางองค์กรเค้าพูดถึงในบทความนะคะ ว่าสิ่งที่ไม่ควรทานเลยเนี่ย Acesulfame K หรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อนึงเลยก็คือ  acesulfame potassium แล้วก็มี Saccharin แล้วก็มีหญ้าหวานด้วยนะคะ เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะทานอยู่นะคะ เค้าจึงมีการบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องทานเลย เพราะว่าเค้าเอางานวิจัย ที่เป็นหลายๆงานวิจัยมารวมกัน มาวิเคราะห์ทางสถิติจากงานวิจัย

ว่าคนที่ทานสารทดแทนความหวานจากน้ำตาลเหล่านี้ เค้าสามารถที่จะลดน้ำหนัก หรือว่าลดแฟตลงได้มั้ย ในระยะยาว ซึ่งก็วิจัยออกมาแล้วนะคะ ว่ามันลดไม่ได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดี เราควรที่จะเลี่ยงดีกว่าค่ะ ไปทานน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ เช่นน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ เพราะว่านอกจากที่เราจะได้น้ำตาลที่ดีแล้วนะคะ เรายังได้ไฟเบอร์ที่อยู่ในผลไม้ด้วยนะคะ หรือทางที่ดีเราควรที่จะเลี่ยงการทานน้ำตาลไปเลยนะคะ

ถ้าหากว่าเราอยากจะดูแลสุขภาพของเราแล้วก็ลดน้ำหนักด้วย เพราะว่าการลดน้ำตาลจะช่วยลดความเสี่ยงที่เราจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน แล้วก็อีกหลายๆโรคที่จะตามมาเลยค่ะ

🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿 🌿

Recommended Articles