แมลโดนัลด์ ธุรกินเฟรนไชน์ที่มีเบื้องหลังสุดดาร์ค

            วันนี้แอดมินก็จะมาเล่าถึงเรื่องของูรกินอาหารชื่อดังอย่าง แมลโดนัลด์ ธุรกินเฟรนไชน์ที่มีเบื้องหลังสุดดาร์ค วันนี้แอดมินก็เลยจะมาเล่าจุดเริ่มต้นของสองพี่น้อง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของร้านเฟรนไชน์ชื่อดัง ที่เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะยังไม่เคยมีใครได้ยินชื่อของพวกเค้ามาก่อน เรื่องราวของพวกเค้าจะเป็นอย่างไร แล้วเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นบ้าง เดี๋ยววันนี้แอดมินจะมาเล่าให้ฟังไปพร้อมกันค่ะ แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม  Kentucky fried chicken กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ  Disney777 ที่สนับสนับบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันได้เลยค่ะ

          เส้นทางการต่อสู้ที่เริ่มจากแผงขายเล็กๆ ก่อนจะขยายสาขาออกไปทั่วโลก ด้วยแรงผลักดันจากหุ้นส่วนธุรกิจคนใหม่ ที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างอาณาจักรแมคโดนัลด์อันยิ่งใหญ่กับด้านมืดของเบื้องหลังเกมธุรกิจดูดเลือดเย็น ที่ผู้ชนะเท่านั้นจึงจะได้เป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นมาใหม่ Maurice Mac McDonald เค้ามีน้องชาย 1 คน คือ Richad Dick McDonald

ทั้งสองเป็นลูกชายของชาวไอริส ผู้ยากจน ซึ่งอพยพมาตั้งอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ยังเล็ก พ่อของสองพี่น้องทำงานเป็นผู้จัดการประจำการทำรองเท้า ในเมืองนานถึง 42 ปี ก่อนจะถูกเลิกจ้างด้วยเหตุผลที่ว่าเค้าแก่เกินกว่าที่จะทำงานนี้ต่อไปได้อีก การรับรู้ว่าพ่อของพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการว่างงาน และจากการทำงานมาหลาย 10 ปี โดยไม่มีแม้แต่เงินบำนาญ ส่งผลกระทบต่อสองพี่น้อง

แมคโดนัลด์อย่างไม่ต้องสงสัย เด็กทั้งสองคนรู้ดีว่าการจมปลักอยู่ในชุมชนแห่งนี้ต่อไป ก็คงจะมีชีวิตที่ไม่ต่างอะไรจากพ่อของพวกเขา ทั้งสองจึงตัดสินใจร่วมกันว่า ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาจะต้องสร้างอิสระทางการเงินให้กับตัวเองให้ได้ และสาบานว่าจะต้องเป็นเศรษฐีเงินล้าน ให้ได้ก่อนอายุ 50 ปี โดยจะไม่ยอมมีชีวิตอันแสนเศร้าเหมือนกับพ่อของพวกเขา ในเวลานี้ แรงผลักดันจากชีวิตการทำงานอันล้มเหลว

ของพ่อส่งผลให้สองพี่น้องแมคโดนัลด์ ตัดสินใจออกเดินทางสู่ดินแดนตะวันตก โดยมีเพียงประกาศนียบัตรระดับชั้นมัธยมปลาย กับความทะเยอทะยาน ที่จะพาพวกเขาไปให้ไกลกว่าที่เป็นอยู่พวกเขาทั้งสองใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานเป็นผู้กำกับ และผลิตภาพยนตร์ รวมไปถึงงานการแสดงต่างๆ ในดินแดนแห่งความฝันอย่างฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนียดินแดนแห่งความฝันและความหวังของชาวอเมริกาในยุคนั้นทั้งคู่

มุ่งหน้าสู่แคลิฟอร์เนียได้เริ่มทำงานให้กับสตูดิโอภาพยนตร์ โคลัมเบียในช่วงปลายทศวรรษที่ปี 1920 โดยการเป็นเด็กจัดไปในโรงถ่ายภาพยนตร์ด้วยค่าจ้างเพียง 25 เหรียญต่อสัปดาห์ ห่างไกลจากอนาคตเศรษฐีเงินล้านที่วาดฝันเอาไว้ แต่ทั้งคู่ก็ช่วยกันเก็บออมเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นอย่างดี เมื่อไร้วี่แววที่ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดในวงการบันทึกได้ในปี 1932 พี่น้องจึงตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง

จากเงินเก็บที่มีอยู่โดยการซื้อยนต์เก่าขนาด 750 ที่นั่ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองลอสแองเจลิส ไปทางตะวันออก 12 กิโลเมตร มาปรับปรุงเป็นโรงภาพยนตร์ พร้อมสแนคบาร์ ในชื่อหมายว่าเดอะบีคอน แต่ว่าการเปิดตัวธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ก็ทำให้โรงภาพยนตร์ของเขาต้องหยุดชะงักลง พวกเขาต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย และหนี้สินจำนวนมากทั้งยังต้องคอยหวาดระแวงว่าธนาคารจะเข้ายึดทรัพย์พวกเขา

ในไม่ช้าจนกระทั่งในปี 1937 สองพี่น้องตัดสินใจเลิกกิจการทั้งคู่ขายโรงภาพยนตร์ทิ้ง ก่อนหันเหมาลองเสี่ยงโชคในธุรกิจอาหาร เนื่องจากสังเกตเห็นร้านฮอทดอกข้างทาง แถวโรงภาพยนตร์ของพวกเขา เป็นหนึ่งในธุรกิจเพียงไม่กี่อย่างที่ยังยังคงมีลูกค้ามาอุดหนุนอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ลมหายตายจากไปเหมือนกับธุรกิจอื่นในช่วงภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ

🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️

Recommended Articles