Gregory Robinson วันนี้แอดมินก็จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ ต้นกำเนิดสาเก ผลไม้ที่แปรรูปและเกิดประโยชน์มากๆ เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน แล้วนำมาใช้ประฌยชน์อะไรได้อีกบ้าง แต่ก่อนที่จะไป แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม เรื่องจริงของปลากระป๋องที่เราไม่เคยรู้ กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก68 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ
ต้นกำเนิดสาเก ผลไม้ที่แปรรูปและเกิดประโยชน์มากๆ มีประโยชน์อย่างไร
สาเกที่เรารู้จักกันนั้น มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Breadfruit ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศนิวกีนี และภูมิภาคอินโดมาเลย์ เป็นไม้ผลพื้นเมืองของหมู่เกาะในอินเดียตะวันออก และมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ถูกค้นพบโดยชาวยุโรป ในช่วงทศวรรษที่ 1700 ต่อมาจึงแพร่หลายไปยังหมู่เกาะอินโดตะวันตกและถูกแพร่หลายทั่วไปในภูมิภาคเขตร้อนเลยค่ะ ลักษณะของต้นสาเก คือเป็นไม้ยืนต้นที่มีใบใหญ่
และหนามียางสีขาวทุกส่วนเป็นเอกลักษ์เลยนะคะ ให้ผลกลมรี เปลือกนอกจะมีสีเขียว เนื้อข้างในจะมีสีเหลือง หรือขาว และยังออกลูกดกมากๆเลยล่ะค่ะ ในหนึ่งฤดูการออกผลได้ถึง 200 ผลต่อต้นเลยล่ะค่ะ และสามารถแบ่งกว้างๆได้ถึงสองชนิดคือพันธุ์ข้าวเหนียว ที่ให้ผลใหญ่ เนื้อเหนียว นิยมปลูกเพื่อทำขนม และอีกชนิดคือพันธุ์ข้าวเจ้า ให้ผลเล็กกว่าเนื้อหยาบ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมกิน แต่เมื่อจำแนก อาจพบว่าสายพันธุ์สาเก
มีมากกว่า 120 สายพันธุ์เลยนะคะ ซึ่งพบความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะมาวี และเกาะกาววาย สาเกนับเป็นอาหารหลักของชาวโอเชียเนีย มานาน ผลสาเก เมื่อนำไปต้มหรืออบ จะได้เนื้อเนื้อนุ่มเหมือนกับก้อนแป้ง ใช้ทำขนมได้เลยค่ะ ในชาวอินโดนีเซียมักนำสาเกไปอบกรอบ ใช้เป็นอาหารว่าง บ้างก็นำไปบดเป็นแป้ง เพื่อนำไปเป็นขนมปังกรอบ บางครั้งก็ใช้ขนุนแกะ ทำขนมปังโดยหันเป็นชิ้นบางๆ
เพื่อตากแดดหรือว่าอบแห้ง และชาวฟิลิปปินส์เองก็นำผลสาเกต้มสุก กินกับน้ำตาล และมะพร้าวขูดฝอย นอกจากนี้ยัง นิยมใช้ดักนกส่วนสาเกที่เห็นในประเทศไทยนั้น เป็นไม้ต่างประเทศที่มีการนำเข้ามาปลูกเมื่อนานมาแล้วค่ะ ทุกวันนี้เราสามารถแบ่งสาเก ที่อยู่ในประเทศไทยได้สองชนิด ชนิดแรกคือสาเกพันธุ์ดั้งเดิม
ที่มีเมล็ดในเมืองไทยเรียกว่าขนุนสัปปะรอ ส่วนอีกชนิดนึงที่ไม่มีเมล็ดถูกถูกเรียกว่าสาเก ผู้คนมักนำมาทำขนมค่ะถือว่าเป็นผลไม้ ที่นำมาแปรรูป และเกิดประโยชน์มากที่สุดอย่างหนึ่งเลยล่ะค่ะ
🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️ 🕊️
